5 เรื่องที่ต้องทำให้ได้ก่อนเกษียณ เพื่ออนาคตที่มั่นคงยามบั้นปลาย

5 เรื่องที่ต้องทำให้ได้ก่อนเกษียณ เพื่ออนาคตที่มั่นคงยามบั้นปลาย

คนส่วนใหญ่ใช้เวลาชีวิตวัยทำงานยาวนานกว่า 40 ปี แต่เมื่อถึงเวลาหยุดทำงาน ต้องเกษียณตัวเองมาอยู่บ้าน ชีวิตจะต้องเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือภายในเวลาสั้น ๆ สิ่งนี้อาจทำให้หลายคนไม่สามารถปรับตัวได้ทัน จนรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นไม่ไหว สิ่งที่สามารถทำได้คือการเตรียมตัวให้พร้อมกับการใช้ชีวิตใหม่อย่างมีความสุขในวัยเกษียณ ด้วยการเตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ ต่อไปนี้

  1. เตรียมร่างกายให้พร้อม

ในวันที่อายุมากขึ้น ร่างกายมีความเหนื่อยล้า และเสื่อมโทรมตามวัยที่มากขึ้น แต่การปล่อยตัวปล่อยใจ ไม่รู้จักดูแลตัวเอง อาจจะทำโรคภัยถามหาในอนาคตได้ ดังนั้นหากอยากมีสุขภาพร่างกายลิตใจที่ดีในวัยเกษียณ ต้องรู้จักสร้างนิสัยที่ดีในการดูแลตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทานอาหารดี ๆ ลดหวาน ลดมันลงบ้าง นอกจากนั้นยังควรปรับการนอนให้เป็นเวลา จะได้เผชิญปัญหานอนไม่หลับในอนาคต

  1. เตรียมเงินไว้ใช้หลังเกษียณ

เมื่อหยุดทำงานและไม่มีรายได้เข้ามา แต่รายจ่ายในชีวิตประจำวันยังคงดำเนินต่อไปตามปกติ สำหรับข้าราชการที่มีสวัสดิการคงจะมั่นใจได้ว่าตนเองจะมีรายรับเข้ามาทุกเดือนตามสวัสดิการ แต่สำหรับพนักงานทั่วไปที่องค์กรไม่มีการสนับสนุนเรื่องกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ การวางแผนการเงินเพื่อออมไว้ใช้หลังเกษียณเป็นสิ่งที่สำคัญมาก โดยสามารถทำได้โดยการฝากเงินแบบประจำ ซื้อประกันออมทรัพย์ หรือลงทุนในสินทรัพย์ที่สามารถทำกำไรได้

  1. ทำประกันสุขภาพ

ยิ่งอายุมากขึ้น ยิ่งมีโอกาสในการเป็นโรคต่าง ๆ มากขึ้น เพราะหลายโรคมีอายุเป็นปัจจัยในการกระตุ้น เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง ดังนั้นการเตรียมตัวเรื่องประกันสุขภาพเอาไว้ล่วงหน้าจะส่งผลดีต่ออนาคตอย่างแน่นอน ยิ่งประกันในปัจจุบันมีสิทธิประโยชน์ที่หลากหลายขึ้น เช่น สามารถใช้สิทธิตรวจสุขภาพประจำปีได้ มีบริการตรวจสุขภาพฟัน ทำให้การลงทุนทำประกันดี ๆ ซักตัวเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง

  1. เตรียมหากิจกรรมเสริมหลังเกษียณ

คนเคยทำงาน เคยมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อร่วมงานทุกวันมาเป็นระยะเวลานาน คงเคยชินกับการมีกิจกรรมทำตลอดเวลา ทำให้ผู้ใหญ่ในวัยเกษียณรู้สึกซึมเศร้าเมื่อต้องออกมาอยู่บ้านโดยที่ไม่มีภาระอะไรให้รับผิดชอบ ดังนั้นการหากิจกรรมทำเพื่อผ่อนคลายความเครียดจุดนั้นนับเป็นเรื่องจำเป็น โดยควรเป็นกิจกรรมเบา ๆ ผ่อนคลาย และสร้างความสุข เช่น หาสัตว์เลี้ยง วางแผนไปเที่ยว

  1. เตรียมที่อยู่อาศัยให้เหมาะกับวัยที่มากขึ้น

พออายุมากขึ้นความคล่องแคล่วว่องไวจะลดลงเป็นธรรมดา ดังนั้นต้องยอมรับความจริงข้อนี้ให้ได้ แล้วเตรียมปรับที่อยู่อาศัยให้เหมาะกับวัยมากขึ้น โดยสามารถทำได้ด้วยการจัดบ้านให้โล่งขึ้น อย่าขัดเงาพื้นบ้านเพราะอาจทำให้ลื่นล้มได้ง่าย รวมทั้งเตรีบมพร้อมเรื่องไฟฟ้าให้มีความสว่างเพียงพอต่อการใช้งาน

ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเตรียมพร้อมเพื่อใช้เวลาในยามเกษียณอย่างมีคุณค่า ทุกคนต้องเริ่มวางแผนชีวิตล่วงหน้ากันไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ และหากสามารถทำตามได้ตามที่วางแผนไว้จะทำให้สุขภาพร่างกายและจิตใจแข็งแรงอย่างแน่นอน ดังนั้นใครที่กำลังนับถอยหลังเข้าวัยเกษียณหรือมีคนในครอบครัวกำลังเตรียมความพร้อมเรื่องเหล่านี้อยู่ สามารถนำทั้ง 5 เรื่องเหล่านี้ไปใช้เป็นเช็คลิสท์ในการดูแลตัวเองได้เลย

เปิดเทคนิคเขียนคอนเทนท์ ให้ดีด้วย 5 วิธีพิเศษ

เปิดเทคนิคเขียนคอนเทนท์ ให้ดีด้วย 5 วิธีพิเศษ

ตลาดการสร้างคอนเทนต์ในปัจจุบันมีความหลากหลาย แถมยังมีการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นการเขียนคอนเทนต์ให้ปังและสามารถดึงดูดลูกค้าได้จริง จึงเป็นจุดประสงค์หลักของการทำการตลาดออนไลน์ในปัจจุบันเลยทีเดียว ซึ่งการจะบรรลุเป้าหมายหลักที่กล่าวถึงได้นั้น ต้องมีการงัดทุกยุทธวิธีมาใช้ในการเขียน ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำเทคนิคที่มีประโยชน์และสามารถนำมาปรับใช้ได้จริงทั้ง 5 ข้อดังนี้

  1. ต้องมีจุดประสงค์ในการเขียน

การจะเขียนคอนเทนต์ขึ้นมาซักหนึ่งเรื่องไม่สามารถเขียนแบบล่องลอยไม่มีแก่นสารได้ อันดับแรกต้องรู้ก่อนว่าจุดประสงค์ของการเขียนเรื่องนี้คืออะไร เช่น เขียนเพื่อให้ความรู้ เขียนเพื่อแนะนำสินค้าหรือบริการ เป็นต้น เมื่อรู้แล้วว่าวัตถุประสงค์ของเนื้อหาคืออะไร ลำดับต่อไปให้พยายามสร้างสรรค์เนื้อหาเพื่อตอบโจทย์นั้นให้ครบถ้วน จึงจะนับได้ว่าเป็นงานเขียนที่มีคุณค่า

  1. ทำเนื้อหาให้มีความเฉพาะตัว

ถ้าเนื้อหาที่นำเสนอออกไปถูกสร้างขึ้นมาจากการคัดลอกเนื้อหาของบุคคลอื่น งานนั้นจะไม่ได้รับความสนใจจากผู้ใช้งานอย่างแน่นอน แถมอาจจะมีความผิดเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์อีกด้วย ดังนั้นต้องมั่นใจว่าคอนเทนต์ที่เขียนขึ้นมามีความเฉพาะตัว และมีแหล่งข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือตามหลักความเป็นจริง

  1. มีภาพและสถิติ

การที่เว็บไซต์มีแต่เนื้อหายาว ๆ เต็มไปด้วยตัวอักษร จะไม่สามารถสร้างความน่าสนใจและดึงดูดผู้คนให้เข้ามาใช้งานเว็บไซต์เหล่านั้นได้ ดังนั้นการจัดวางเนื้อหาต้องเรียบง่ายและมีระบบ รวมทั้งมีการแสดงภาพหรือสถิติต่าง ๆ เพื่อให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจ ภาพที่ใส่ควรมีความละเอียดและขนาดที่เหมาะสม รวมทั้งมีความสอดคล้องกับเนื้อหาที่ต้องการอิบายด้วย

  1. ชื่อเรื่องติดหู

ต่อให้เนื้อหาจะดีแค่ไหน แต่สิ่งที่ผู้อ่านมองเห็นเป็นสิ่งแรกคือชื่อของบทความ ดังนั้นต้องใส่ใจและให้ความสำคัญกับการตั้งชื่อบทความให้ดี โดยควรเป็นชื่อที่น่าสนใจ ใช้คำเข้าใจง่ายและติดหู รวมทั้งควรเป็นชื่อที่ครอบคลุมใจความสำคัญของเนื้อหา และควรมีความยาวที่พอเหมาะพอดีให้ดูสวยงามเวลาจัดวางบนหน้าจอนำเสนอ

  1. มีการเปรียบเทียบหรือยกตัวอย่าง

การเขียนคอนเทนต์ให้เห็นภาพมีสามารถนำอีกสองเทคนิคมาใช้ได้อย่างเหมาะสม อันดับแรกคือการเปรียบเทียบประเด็นหลายประเด็น ให้เห็นถึงความแตกต่างและจุดเด่นของแต่ละอย่าง เพื่อให้ผู้อ่านสามารถเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับตนเองได้ อีกวิธีการคือการยกตัวอย่าง บางครั้งคำอธิบายเฉย ๆ จะไม่สามารถสื่อใจความออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ถ้าผู้เขียนสามารถยกตัวอย่างให้เห็นภาพมากขึ้น จะง่ายต่อการสื่อสารกับผู้บริโภคมากขึ้นแน่นอน

ทั้ง 5 เทคนิคที่เรานำมาแนะนำกันในวันนี้เป็นสิ่งที่มีความจำเป็นและสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับคอนเทนต์ได้ทุกประเภท จึงเป็นสิ่งที่ครีเอเตอร์ทุกคนต้องให้ความสำคัญและสร้างสรรค์ประเด็นต่าง ๆ เหล่านี้อย่างพิถีพิถัน จึงจะสามารถเอาชนะใจลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์

หนุ่ม ๆ ห้ามพลาด 5 เคล็ดไม่ลับในการเลือกรองเท้ากีฬาให้เหมาะกับตัวเอง

หนุ่ม ๆ ห้ามพลาด 5 เคล็ดไม่ลับในการเลือกรองเท้ากีฬาให้เหมาะกับตัวเอง

รองเท้ากีฬา ใครว่าใส่แค่เพื่อนเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายเท่านั้น เพราะสิ่งนี้ไม่เพียงช่วยให้การออกกำลังกายและเล่นกีฬาของคุณสะดวกและซัพพอร์ตไม่ให้เกิดอันตรายระหว่างเล่นกีฬา อย่างเช่นการวิ่งที่ต้องใส่รองเท้าวิ่งเพื่อให้ไม่รู้สึกสบายเท้า รองเท้ากีฬายังสะท้อนสไตล์ของผู้สวมใส่อีกด้วยจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่หนุ่ม ๆ หลายคน กว่าจะเลือกรองเท้าได้สักคู่ก็เลือกแล้วเลือกอีกลังเลอยู่นานโดยเฉพาะมือใหม่ที่พึ่งจะหันมาออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาจริงจัง วันนี้เราชวนคุณมาเปิดเคล็ดลับในการเลือกรองเท้าให้เหมาะกับตัวเองหนุ่ม ๆ ห้ามพลาด

  1. รองเท้าให้เหมาะกับการเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายเช่นคนที่เข้าฟิตเนส คุณสามารถเลือกรองเท้าที่ให้ความสบายแล้วรับน้ำหนักและยึดเกาะกับทุกสภาพผิวได้ดี ส่วนคนที่ใช้รองเท้าสำหรับเล่นกีฬาฟุตบอล นิยมใส่รองเท้าสตั๊ดหรือรองเท้าที่มีรอยปุ่ม สำหรับเล่นบนสนามหญ้าเทียม ออกแบบมาเพื่อสำหรับใส่เล่นกีฬาที่ต้องวิ่งอยู่บนพื้นสนามเพราะตัวผมใต้พื้นรองเท้าจะช่วยยึดติดสนามไม่ให้ลื่นล้มขณะวิ่ง
  1. เลือกรองเท้าจะต้องดูขนาดที่เหมาะสมกับทรงเท้า เคยไหมรองเท้าที่ชอบไม่เข้ากับรองเท้าตัวเองตัดสินใจซื้อมาลองใส่แล้วรู้สึกเจ็บ นั่นเพราะการเลือกรองเท้าให้เหมาะกับรูปทรงเท้าของคุณนั้นมีความสำคัญ ทำให้รู้สึกเจ็บขนาดไหนหรือเล่นกีฬาอีกทั้งยังไม่ทำให้รู้สึกปวดเมื่อยด้วย 
  1. สไตล์สีสันที่ชอบเป็นเรื่องเล็กที่หาซื้อผิดชวนให้หงุดหงิดในภายหลัง โดยเฉพาะคนที่ชอบสั่งซื้อรองเท้าออนไลน์ บ่อยครั้งได้สินค้าไม่ตรงปก เพื่อให้คุณไม่พลาดในการเลือกสไตล์รองเท้าเล่นกีฬาที่เหมาะกับตัวเองแนะนำหนุ่ม ๆ ให้ไปที่ร้านและเลือกซื้อสไตล์รองเท้ากีฬาที่ตอบโจทย์ความต้องการ อย่างเช่นคนที่ชอบรองเท้าหรือการแต่งตัวสไตล์มินิมอล คุณสามารถเลือกรองเท้าที่เป็นโทนสีเข้มอย่างสีดำหรือสีเทาที่เป็นโทนสีสะท้อนสไตล์มินิมอลได้เป็นอย่างดี
  1. ส้นเท้าไม่หลวมหรือแน่นเกินไป เน้นความกระชับเพื่อให้การเล่นกีฬาไม่พบอุปสรรคเรื่องรัดแน่นจนรู้สึกเจ็บ เป็นแผลตามมา หรือสร้างความห่วงพะวงว่ารองเท้าจะหลุดระหว่างเล่นกีฬา ดังนั้นการเลือกรองเท้าให้เหมาะกับตัวเองทางที่ดีแนะนำไปลองที่ร้านย่อมได้รองเท้าที่สวมใส่พอดี

เหล่านี้เป็นวิธีการเลือกซื้อรองเท้ากีฬา สำหรับหนุ่ม  ๆที่อยากจะซื้อรองเท้าคู่ใหม่เพื่อพร้อมสำหรับการเล่นกีฬา ใครที่กำลังวางแผนอยากจะเลือกซื้ออยู่แล้ว ก็อย่ารอช้านำข้อมูลเหล่านี้ไปช่วยในการตัดสินใจได้เลยแล้วคุณจะได้รองเท้าคู่สวยที่เหมาะกับตัวเองพร้อมใส่เท่ ๆไปเล่นกีฬา

เครียดมากทำอย่างไร เริ่มต้นด้วยสิ่งนี้กันดู

เครียดมากทำอย่างไร เริ่มต้นด้วยสิ่งนี้กันดู

คิดผิดชีวิตเปลี่ยน ประโยคฮอตที่น่าจะพอคุ้นหูกันอยู่บ้าง ซึ่งก็เป็นไปตามนั้นจริง ๆ เพราะการกระทำหลายอย่างก็มาจากความคิด และในยุคที่ความเครียดรุมเร้าแบบนี้ คนส่วนใหญ่มีจิตใจเปราะบาง ท้อแท้ได้ง่าย วันนี้เราจึงชวนมารู้ทันวิธีคิดบวกและการวางแผนชีวิตที่จะช่วยให้คุณผ่านปัญหาและจัดการความเครียดให้อยู่หมัด มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

เริ่มจากเติมพลังงานบวก คิดแต่เรื่องดีๆ เอาใจใส่ครอบครัวและคนที่รักมากขึ้น ความคิดเชิงบวกทำให้รู้สึกดีกับคนแปลกหน้าและกล้าทำความรู้จักกับคนมากขึ้น เลือกคบหากับเพื่อนดีๆ ชอบทำกิจกรรมเหมือนๆ กัน เพื่อนที่ไม่น่าคบทำให้เหน็ดเหนื่อย คิดเชิงลบและชักนำให้ไปพบกับเรื่องเดือดร้อนควรถอยห่างออกมาอย่าไปคบหาสมาคม การเสพข่าวก็เป็นอีกเรื่องที่ทำให้เกิดความคิดแง่ลบ แทนที่จะมองเห็นสิ่งดีรอบๆ ตัวกลับมองเห็นแต่ความยากลำบากและบ่อนทำลายพลังงานบวกด้วย

วางแผนชีวิตและจัดลำดับความสำคัญ การใช้ชีวิตควรมีการตั้งเป้าหมายล่วงหน้า เขียนสิ่งที่ต้องทำ จากนั้นจัดลำดับความสำคัญและทำเรื่องสำคัญก่อนในช่วงเวลาที่มีพลังงานมากที่สุดแล้วทำให้สำเร็จไปทีละอย่าง การกำหนดตารางเวลาคร่าวๆ ทำให้ใช้ชีวิตอย่างมีวินัยและเป็นระเบียบ ไม่ต้องรีบร้อนจะช่วยลดความเครียดในแต่ละวัน 

พบปะเพื่อนฝูง เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ชีวิต เพราะถ้าได้ลองไปพูดคุยกับคนอื่นคุณจะเห็นว่าแต่ละชีวิตก็มีปัญหาที่แตกต่างกันไป บางครั้งเราสามารถเรียนรู้จากข้อผิดพลาดของคนอื่นได้โดยไม่จำเป็นต้องรอให้เกิดสถานการณ์นั้นก่อน ใครที่มีความเครียดอยู่ตอนนี้อย่าเพิ่งจมอยู่กับความคิดลบนาน ออกจากกะลาแล้วลองมองดูอีกหลายชีวิตที่ต้องอยู่ให้รอด

จิตอาสา เคยไหมเครียดมาจนรู้สึกว่าตัวเองทำอะไรไม่ได้ ไร้ค่า อยากให้ลองไปทำงานจิตอาสา ทุกวันนี้มีเว็บไซต์รับสมัครจิตอาสาให้ได้ร่วมกิจกรรมกัน อย่างการอ่านนิทานอัดเสียงเพื่อให้ผู้พิการทางสายตาได้ฟัง หรือการร่วมช่วยเหลือมูลนิธิต่าง ๆ เหล่านี้ช่วยสร้างคุณค่าให้กับตัวคุณเองได้

เหล่านี้เป็นวิธีหาทางออกเมื่อคุณอยู่กับความเครียดนานจนไม่รู้ทางออก ลองเริ่มกันเลยทีอย่างสองอย่างแล้วคุณจะพบผลลัพธ์ว่า จริง ๆ แล้วมีคนอีกตั้งมากมายที่เครียดมากแต่ก็ผ่านไปได้ทุกปัญหา และคุณเองก็สามารถที่จัดการความเครียดได้อยู่หมัดเช่นกัน จะว่าอยู่ที่ใจล้วน ๆ ก็ไม่ผิด ต้องลงมือทำทันทีด้วยต่างหากจึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนว่าตัวเองเครียดน้อยลง ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์มากกว่าการมานั่งกุมขมับแล้วเครียดจนไม่เจอทางออก อีกหนึ่งทางเลือกที่หลายๆคน ให้ความสนใจในการนั่นก็คือการดูบอลผ่านทางเว็บ วิเคราะห์บอล888.com ที่รวบรวมข่าวสารฟุตบอลรวมไปถึง ผลบอลสด วิเคราะห์บอล ผลบอลสด 888 ครบจบทีเดียว

น้ำตกหมู ข้าวเหนียว อยู่หอมีแค่หม้อหุงข้าวกับหม้ออบลมร้อนก็ทำได้

น้ำตกหมู ข้าวเหนียว อยู่หอมีแค่หม้อหุงข้าวกับหม้ออบลมร้อนก็ทำได้

น้ำตกหมู ข้าวเหนียว ผักสด ๆ กินแล้วประมาณว่าวิ่งได้ 10 กิโลเมตรเพราะ ให้พลังงานที่จำเป็นต่อร่างกายแบบครบถ้วน ไม่อ้วน อยู่ท้อง อร่อยด้วย ซื้อเขากินอย่างน้อยก็ 60-80 บาท ได้เนื้อหมูประมาณ 10-15 ชิ้น ข้าวเหนียว 10 บาท อิ่มอยู่สองคนผอม ๆ ดังนั้น ทำกินเองเลย เนื้อหมู 3 ขีด 60 บาท ที่สำคัญเลือกเนื้อเองเอาไม่ติดมันได้ ทำออกมาแล้วได้จานใหญ่ ๆ อิ่มไปสี่คนเลย เมนูนี้เหมาะสำหรับหนุ่มๆที่ชอบความแซ่บ แถมได้ประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย แม่บ้านทั้งหลายอยากเอาใจสามีที่ทำงานกลับบ้านมาเหนื่อยๆ บอกให้สามีนั่งดูฟุตบอลผ่านช่องทาง ผลบอลสด888 แล้วเสริฟเมนูน้ำตก ข้าวเหนียว ผักสด รับรองว่าสามีติดใจ ไม่มีบ้านน้อยแน่นอน ดังนั้นมาดูขั้นตอนการทำกันดีกว่า

ขั้นตอนการทำ

หุงข้าวเหนียว

หุงเหมือนข้าวเจ้านันแหล่ะ แต่ใส่น้ำน้อยมาก แค่ประมาณครึ่งนิ้วของเรา จากนั้นปิดฝา กด cook สักพักหม้อจะดีดคือสุขแล้ว เปิดฝาหม้อแล้วใช้ทัพพีคนข้าวให้ทั่ว จากนั้นปิดฝาต่อสักห้านาที ถอดปลั๊กออก ตักข้าวใส่ถ้วย การหุงข้าวเหนียวแบบนี้มีข้อดีคือข้าวจะนิ่มมาก และจะนิ่มไปทั้งวันทั้งคืนต่างจากถุงด้วยหวดหรือวิธีดั้งเดิมคือนิ่มเฉพาะตอนข้าวสุกใหม่ ๆ จากนั้นจะเริ่มแข็ง ผ่านไปหนึ่งวันก็กินไม่ได้ต้องเอามานึ่งซ้ำอีก แต่ข้อเสียในการหุงข้าวด้วยหม้อหุงข้าวคือ ข้าวจะติดมือนิดหน่อย ( ใครใส่น้ำเยอะจะติดมือมาก ) ทำกินกันเองระหว่างเพื่อนได้แต่กินกับญาติผู้ใหญ่หรือถวายพระไม่ได้

ทำน้ำตกหมู

ล้างชิ้นหมูให้สะอาด จากนั้นเอาเข้าหม้ออบลมร้อน สุกแล้วนำมาหั่นเป็นชิ้น ๆ พอดีคำ นำหมูย่างที่หั่นเรียบร้อยใส่ลงในหม้อตั้งไฟอีกครั้ง เติมน้ำเปล่ารอจนเดือด ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บและน้ำปลา คลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง เติมหอมแดงซอย ผักชีฝรั่งและต้นหอมซอย ใส่พริกป่นและข้าวคั่ว

– ใส่มะนาว รสชาติจะกลมกล่อม เบา ๆ สะอาด ๆ ได้รสชาติของเนื้อหมู

– ใส่ดีขวด จะขมแซ่บ ซอยพริกเขียวเข้าไปด้วย เข้ากันสุด ๆ

– ใส่ทั้งสองแบบก็ได้ แล้วแต่ชอบ

ผักสด

แล้วแต่ชอบ ผู้เขียนจะชอบถั่วฝักยาว ใบสะระแหน่ มะเขือเปราะ ใบชะพลู ใบกระถิน และก็พริกเขียว กัดกินสด ๆ เลย มันจ๊าดดี ( จ๊าด ภาษาอีสาน แปลว่ารสชาติแรง กินหรือดื่มแล้วมันจะจี๊ดขึ้นสมองทันที )

ข้อควรระวัง

บางท่านชอบย่างเนื้อหมูแบบชุ่ม ๆ ซอยแล้วมีสีแดงข้างใน มีเลือดซึมออกมานิด ๆ แต่อาจเสี่ยงติดโรคที่มากับหมูหรือพยาธิ ส่วนผักสดควรล้างหลาย ๆ รอบเพื่อป้องกันพยาธิเช่นเดียวกัน ข้าวคั่ว พริกคั่วต้องใหม่ สะอาดและไม่เหม็นหืน

เป็นยังไงบ้างคะ อ่านแล้วทำไม่ยากเลยใช่ไหม หากเราอยู่คนเดียวสามารถเก็บไว้กินอีกมื้อได้ แต่การทำอาหารแบบนี้เหมาะสำหรับท่านที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องปรุงในครัว หากใครมีห้องโล่ง ๆ มีแค่น้ำปลา น้ำตาลกับซอสสองสามขวด การซื้อกินอาจจะเหมาะกว่า และเมื่อมีเวลาก็ค่อย ๆ ซื้อเครื่องครัวและเครื่องปรุง ค่าครองชีพทุกวันนี้สูงมาก การทำกับข้าวกินเองนั้นบอกเลยว่าประหยัดได้มากจริง ๆ

ROV SS22 วิธีเล่นเปลี่ยนไป หลายฮีโร่โดนเนิฟ

ROV SS22 วิธีเล่นเปลี่ยนไป หลายฮีโร่โดนเนิฟ

ROV season 22 ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบเกมค่อนข้างมาก ชนิดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน โดยเฉพาะ objective สำคัญอย่างมังกรใหญ่ที่ปรับเปลี่ยนชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ เลน Dark slayer จึงได้มีบทบาทขึ้นกว่าเดิมใน patch นี้ และฮีโร่หลายตัวได้รับการเนิฟ มาดูกันดีกว่าว่า patch นี้มีอะไรไม่เหมือนเดิมกันบ้าง

Objective Dark slayer

ผู้เล่น ROV มักละเลยการเก็บ object สำคัญที่ช่วยให้ชนะเกมนั่นคือ dark slayer ส่วนใหญ่ตอนต้นเกมผู้เล่นมักให้ความสำคัญกับมังกร Abyssal มากกว่า เพราะจะได้รับบัพเพิ่มดาเมจ เพื่อใช้สู้สำหรับทีมไฟต์ และ dark slayer จะโดนมองข้ามไป เนื่องจากให้ค่าพลังที่น้อยกว่า abyssal dragon แต่ตอนนี้ dark slayer มีความสำคัญขึ้นมาก โดยปรับจากให้พลัง เป็นเกิดครีปมังกรเล็กในทุก ๆ เลนแทน ซึ่งจุดนี้มีความสำคัญมาก หากทีมเราได้ dark และสามารถไฟต์จนฝ่ายตรงข้ามตายยกทีมได้ จะทำให้ทีมเราดันครีปขึ้นสูงได้ในทุกเลน อาจทำให้ป้อมที่ 2 และป้อม 3 แตกได้ในช่วงต้นเกม ดังนั้นตั้งแต่ปรับ patch นี้มา เรามักจะเห็นผู้เล่นในหลายคนเริ่มตี dark ก่อน

ความสำคัญของผู้เล่นเลน Dark Slayer

ช่วงต้นเกม patch ก่อนหน้า เลน Dark แทบไม่มีความสำคัญเลย เพราะผู้เล่นนิยมรวมตัวกันที่เลนแครี่ เพื่อแย่งมังกร Abyssal แต่ตอนนี้เลน dark มีความสำคัญเพิ่มขึ้นอย่างมาก จากการปรับ Dark Slayer ใหม่ รวมถึงมีการเพิ่มอัตราการฮีลของมังกรเล็ก ผู้เล่นจึงจำเป็นต้องกดเลนฝ่ายตรงข้ามให้ได้ และรีบทำลายป้อมฝ่ายศัตรูเลนนี้ เพื่อให้เราคุม Dark Slayer ได้ดียิ่งขึ้น หากในช่วงต้นเกมเราเล่นพลาด โดนคิลไปหลายครั้ง จะทำให้เพื่อนร่วมทีมลำบากอย่างแน่นอน เพราะโดนครีปมังกรดันเลน และส่งผลกระทบไปถึงช่วงกลางเกม จนถึงท้ายเกมด้วยเช่นกัน ช่วงกลางเกมของ Dark Slayer ก็มีการปรับจาก patch ก่อนด้วย กล่าวคือจะมีอัตราการเพิ่มจำนวนของครีปมังกรเล็ก และมีมังกรโผล่มาที่เลนกลาง หากเราพลาดเพียงคนเดียว อาจทำทีมแพ้ได้เลย

ลาก่อนฮีโร่ที่เคยเก่ง

ม้าหรือ Volkath ที่ patch ก่อนหน้า OP มาก จนในเกมแรงค์ ผู้เล่นส่วนใหญ่เลือกแบนเป็นอันดับแรกๆ เพราะเป็นตัวที่จัดการได้ยาก สามารถล้วงฮีโร่แครี่ในแนวหลัง ได้อย่างรวดเร็ว มีดาเมจสูงมาก
ใช้สกิลชุดเดียว ก็สามารถจัดการฮีโร่เลือดน้อยได้ง่าย ๆ แต่ patch ล่าสุดจะโดนเนิฟทั้งความเร็ว และดาเมจตอนที่ขี่หลังม้า อีกตัวคือ นาคอส ฮีโร่ที่อาศัยสกิลเพลย์ค่อนข้างสูง มีความพลิ้วไหวรวดเร็วจนทำให้หลายคนรำคาญใน ss 21 ตอนนี้จะโดนเนิฟในเรื่องของ damage สกิลเบาลง และ cc ของนาคอสจะไม่นานเท่าเมื่อก่อน

โดยสรุป ss 22 ผู้เล่นออฟเลนจะมีความสำคัญเพิ่มขึ้น ทีมต้องรวมตัวกันเอา Dark Slayer มากกว่าเดิม และต้องอาศัยสกิลเพลย์ team work ที่ดี ในการจะเอาชนะเกมใน patch ss22 ได้

ประโยชน์จากความทุกข์

7 ประโยชน์จากความทุกข์

คุณจะรู้สึกอย่างไร เมื่อทราบว่าตนเองจะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียง 1 ปีและไม่สามารถส่งลูกเรียนจบได้ตามเป้าหมาย ,เป็นภาระให้คนอื่นดูแล,ธุรกิจล้ม, สามีทิ้ง, เพื่อนทรยศ, บ้านไฟไหม้, โจรใจร้ายขึ้นบ้าน และฯลฯ อีกสารพัดเรื่องราวที่พุ่งเข้าหาโดยไม่ตั้งตัว แน่นอนว่าตัวทุกข์คงจะกระโจนใส่เข้ายึดที่มั่นในใจจนยากที่จะหลีกเลี่ยงได้ ทุกครั้งที่ทุกข์บทเรียนสำคัญพร้อมประตูออกบานใหม่จะเกิดขึ้นเสมอ ยิ่งทุกข์มากเท่าไรเรายิ่งเข้าใจความหมายและให้คุณค่ากับความสุขมากเท่านั้น เราได้ประโยชน์อะไรจากความทุกข์บ้าง

ความอดทน อดกลั้น เมื่อทุกข์กระแทกนั่นคือมันกำลังทดสอบความแข็งแกร่งของจิตใจ ใครอ่อนแอก็ต้องแพ้ไป ทุกคนล้มได้แต่ต้องไม่แพ้ ต้องลุกขึ้นยืนให้เร็วแล้วอดทนเรียนรู้จนกว่าจะฝ่าด่านได้ ผู้ที่มีความอดทน อดกลั้นมากพอจะได้รับการต้อนรับเข้าสู่อ้อมกอดความสุขได้ในที่สุด

ความมุ่งมั่นไม่ยอมแพ้ ความทุกข์เป็นแรงผลักให้เราทุ่มสุดกำลัง และสติปัญญาดิ้นรนไหว่คว้าหาทางออก สู้ยิบตาชนิดกัดไม่ปล่อย ทุกข์จึงกลายเป็นหอกแหลมที่คอยจิ้มทิ่มแทงไม่ให้เราร่วงลงสู่หุบเหว

ค้นพบศักยภาพที่แท้จริง เมื่อต้องสู้ยิบตาสมองจะสั่งการให้ศักยภาพในตัวเราเปล่งประกายออกมา เป็นความสามารถแท้จริงที่ซ่อนอยู่ และนี่อาจเป็นโอกาสที่ความสำเร็จสูงสุดจะเกิดขึ้น

ได้พบกัลยาณมิตร ในวันสุขใจใครก็อยากเป็นเพื่อนเรา ในวันอับเฉาเหลียวหาเงายังไม่เห็น เพื่อนแท้จะปรากฏตัวในวันลำบาก ความทุกข์จึงเป็นเครื่องกรองคนชั้นดีทำให้ฉลาดเลือกคบคนมากขึ้น

พบโอกาสใหม่ๆ ที่ใช่กว่าเดิม ข้อเท็จจริงของชีวิตคือไม่มีอะไรจีรัง มีเกิดย่อมมีดับ เช่น ในวันที่ธุรกิจขาดทุนทำให้เรารู้ว่ายังมีธุรกิจใหม่ที่ใช่มากกว่า ได้เรียนรู้นวัตกรรมเพิ่มกำไร ได้เปิดตลาดใหม่ในช่วงวิกฤติ, การหย่าร้างเปิดทางให้ผู้หญิงแกร่งขึ้น, อกหักทำให้พบรักที่ดีกว่าหรือเป็นแรงผลักให้เกิดความสำเร็จได้อย่างน่าอัศจรรย์, เอ็นทรานซ์ไม่ติดทำให้พบช่องทางเรียนที่ใช่โดยไม่คาดฝัน เป็นต้น

ได้เข้าถึงพระธรรม เมื่อทุกข์นำธรรมจึงปรากฏ ในวันที่ทุกข์ที่สุดบังคับมนุษย์ให้เข้าถึงพระธรรม มีโอกาสเข้าถึงข้อธรรมคำสอน ความสงบ และกลับมามองตัวเอง เมื่อปัญญาเกิดก็จะเปิดประตูปล่อยทุกข์ออกได้

รักและภูมิใจในตัวเองมากขึ้น เมื่อสามารถผ่านวันร้าย ๆ มาได้เราจะขอบคุณตัวเองมีสติ อดทนอดกลั้น มุ่งมั่นไม่ยอมแพ้ จะเกิดความรู้สึกรักและภูมิใจในตัวเองทำให้เราสนุกกับการก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างสร้างสรรค์

ความทุกข์ไม่ใช่ผู้ร้าย จงเปลี่ยนทัศนคติที่มีกับความทุกข์ เมื่อใดที่ต้องเผชิญขอให้ใช้สติเป็นตัวตั้งรับจากนั้นค่อย ๆ เรียนรู้ทำความเข้าใจมองหาโอกาสในวิกฤติหาประโยชน์ในตัวทุกข์ให้ได้ เมื่อมองทุกข์ในมุมบวกได้ชีวิตก็ไม่มีอะไรต้องกลัวอีกแล้ว แล้วเราจะพบว่าความทุกข์เป็นครู จงขอบคุณความทุกข์เพราะมันเป็นที่มาของการเอาชีวิตรอดได้โดยแท้จริง

10 ประโยชน์น้ำเปล่าเพื่อสุขภาพ

10 ประโยชน์น้ำเปล่าเพื่อสุขภาพ

น้ำเปล่าคือตัวช่วยสำคัญในการสร้างสุขภาพดี ในร่างกายมีส่วนประกอบของน้ำ 70% นั่นคือคำตอบว่าร่างกายเราขาดน้ำไม่ได้ และต้องดื่มให้มากเพียงพอต่อสมดุลในการทำงานของอวัยวะต่างๆซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วปริมาณน้ำที่ร่างกายต้องการใน 1 วัน คือ 8-10 แก้ว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวของแต่ละคนด้วยโดยมีวิธีคำนวณการดื่มน้ำต่อวันดังนี้ น้ำหนักตัว x 2.2 x 30/2 = ปริมาณน้ำ(มล.) เช่น น้ำหนักตัว 52 = 52×2.2×30/2=1,716 มล./วัน เราได้ประโยชน์อะไรจากน้ำเปล่าบ้าง

ดับกระหาย ลดความหิวกระหาย ร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ลดอาการง่วงนอน ใจเย็น อารมณ์ดี

ลดความอ้วน น้ำช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญให้ดีขึ้นลดการตกค้างของไขมันส่วนเกิน นอกจากนี้ยังช่วยลดความอยากอาหารลง คนที่ดื่มน้ำสม่ำเสมอจึงเท่ากับเป็นการลดความอ้วนไปในตัว

ช่วยส่งเสริมระบบย่อย การย่อยอาหารดีขึ้น ลดอาการกรดไหลย้อน ช่วยทำให้ระบบการดูดซึมมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ผิวสวย ผิวพรรณชุ่มชื้นเปล่งปลั่งสดใส คนที่ดื่มน้ำเพียงพอผิวจะอวบอิ่มเป็นธรรมชาติ ไม่แห้งเป็นขุย หากขาดน้ำแม้จะใช้โลชั่นทาผิวก็ยากที่จะฟื้นฟูสภาพผิวให้ชุ่มชื้นเท่าที่ควรจะเป็นได้

ลดอุณหภูมิในร่างกาย อุณหภูมิในร่างกายจะสูงเมื่ออยู่ในที่ร้อนอบอ้าว กลางแดดจัด ออกกำลังกาย หรือร่างกายมีไข้สูงซึ่งอาจทำให้มีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 40 องศาได้ น้ำจะช่วยรักษาสมดุลอุณภูมิให้คงที่ ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคลมแดด (heat stroke) ซึ่งมีความเสี่ยงต่อความเสียหายของระบบประสาท ตับ และไต, ป้องกันการช็อค ชัก จากการมีไข้สูง

ลดอาการร้อนใน และปากอักเสบ

ระบบขับถ่ายเป็นปกติ น้ำช่วยให้ระบบขับถ่ายทั้งอุจจาระ และปัสสาวะทำงานเป็นระบบ อุจจาระอ่อนนุ่ม ลดกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ลดความเสี่ยงโรคริดสีดวงทวาร การดื่มน้ำตอนเช้าหลังตื่นนอนเป็นประจำช่วยกระตุ้นการขับถ่ายให้ตรงเวลา ช่วยขจัดไขมันตกค้าง

ลดภาระการทำงานของไต ลดความเสี่ยงโรคนิ่วในไต น้ำเข้าไปเจือจางเกลือ และแร่ธาตุที่ทำให้เกิดนิ่ว ในคนที่ต้องกินยาการดื่มน้ำตามมาก ๆ ช่วยให้ไตกำจัดการตกค้างของยาที่จะไปสะสมที่ตับได้ดีขึ้น

ละลายลิ่มเลือด น้ำช่วยลดความหนืด ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้การลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น

ลดความเสี่ยงจากมะเร็งลำไส้ ผลจากที่น้ำช่วยเรื่องระบบขับถ่าย การย่อย และการดูดซึมของลำไส้ได้ดี ทำให้ลดการสะสมของเสียในลำไส้ ช่วยสร้างสภาวะแวดล้อมที่ดีให้ลำไส้ ลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคมะเร็งลำไส้

อย่าปล่อยให้น้ำเปล่าเป็นทางเลือกสุดท้ายของเครื่องดื่ม เตรียมน้ำให้พร้อมดื่มในแต่ละวัน ทยอยดื่มเพื่อให้สามารถดูดซึมไปเลี้ยงร่างกายได้อย่างเพียงพอ การดื่มในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งอาจเสียน้ำไปกับปัสสาวะจนร่างกายดูดซึมไม่ทันได้ ฝึกเป็นนิสัยใส่ใจดื่ม คือจุดเริ่มต้นของสุขภาพดี

เต้นแอโรบิก

5 วิธีลดไขมันอันตรายไม่ใช้ยา

ตรวจสุขภาพทุกปีคนอ้วนและผอมหลายคนคงต้องสะดุ้งกับค่าไขมันอันตราย 3 ตัว ซึ่งถ้าระดับไขมันเหล่านี้ปกติดีจะมีค่าดังนี้ คอเลสเตอรอล (Cholesterol) ต่ำกว่า 200 มก./ดล.,ไตรกลีเซอร์ไรด์ (Triglyceride) ต่ำกว่า 200 มก./ดล. และเอส ดี แอล (HDL) สูงกว่า 35 มก./ดล. ถ้าผลตรวจมีค่าเกินกว่านี้ก็ต้องหาทางลดสู่ระดับปกติให้ได้ เรามี 6 วิธีการลดด้วยตัวเองโดยไม่ใช้ยามาฝากกัน

บริหารการกิน ลดการกินอาหาร เช่น เนื้อติดมัน ไข่แดง สัตว์ที่มีกระดองแข็ง เช่น ปู กุ้ง ปลาหมึก อาหารทอด เช่น กล้วยทอด มันทอด ปาท่องโก๋ เพิ่มการทานผักใบเขียว ธัญพืช เพิ่มกากใยลดการดูดซึมไขมันให้มากขึ้น ตัวอย่างอาหาร ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาแมคคาเรล อโวคาโด กระเจี๊ยบเขียว คะน้า ต้นอ่อนทานตะวัน (คนเป็นโรคเกาต์ควรเลี่ยง) กระเทียม พริกไทยดำ ชาขาว อัลมอนด์ น้ำมันมะกอก น้ำมันงา ข้าวกล้อง เป็นต้น

ออกกำลังกาย ใช้วิธีการออกกำลังกาย 2 แบบ คือ

แบบแอโรบิก (Aerobic exercise) เช่น เดินเร็ว ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ วิ่งเหยาะ ควรทำให้ได้ 5 วันสัปดาห์ รักษาอัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate)ให้อยู่ใน ช่วง 40-75% อย่างน้อยวันละ 30 นาที ถ้าจะให้ได้ผลดีควรทำต่อเนื่อง 50-60 นาที/วัน รักษาวินัยทำได้สม่ำเสมอ

การออกแรงต้าน (Resistance exercise) เป็นการออกกำลังกายที่มุ่งเปลี่ยนไขมันเป็นกล้ามเนื้อ โดยใช้น้ำหนักตัวเอง หรืออุปกรณ์มาเป็นแรงต้าน เช่น การยกดัมเบล การเล่นยางยืด การโหนบาร์ การย่อ-ยืน การซิทอัพ เป็นต้น ความถี่ให้ทำ 2-3 วัน/สัปดาห์, 8-12 ครั้ง/เซ็ท ทำต่อเนื่อง 2-4 เซ็ท /วัน อย่าลืมวอร์มร่างกายให้กล้ามเนื้อรู้ตัวก่อนทุกครั้ง หักโหมมีความเสี่ยงต่อกล้ามเนื้อฉีกได้

นอนให้เพียงพอ การอดนอนเสี่ยงต่อหัวใจวาย หัวใจล้มเหลว หัวใจเต้นผิดจังหวะ ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมองตีบ โรคเบาหวาน และยังทำให้เป็นโรคอ้วน เนื่องจากระดับ ghrelin ที่เป็นตัวกระตุ้นความหิวเพิ่มขึ้น ทำให้อยากอาหารร่างกายรับเข้าเยอะขับออกน้อยจึงมีส่วนเกินสะสม

ลดความอ้วน ความอ้วนคือที่มาของอีกหลายโรค ตั้งเป้าหมายลดความอ้วนให้ได้
งดดื่มแอลกอฮอลล์ เร่งการสะสมไขมันตามเนื้อเยื่อ แม้จะไม่มีคอเลสเตอรอลในเครื่องดื่มโดยตรง แต่มีส่วนผสมของน้ำตาล และคาร์โบไฮเดรตที่ส่งผลให้เกิดความอ้วน และสร้างไตรกลีเซอไรด์ให้เกิดขึ้นได้ ส่งผลให้เกิดโรคหลอดเลือดอุดตัน และโรคหัวใจ

อย่าวางใจกับค่าผิดปกติของระดับไขมันอันตรายทั้ง 3 รายการข้างต้น รู้เร็ว รีบแก้ไข และป้องกันให้อยู่ในระดับปกติได้พร้อมดูแลชีวิตด้วยความใส่ใจช่วยให้ปลอดภัย ประหยัดค่ารักษา ไม่เป็นภาระคนอื่น

ออฟฟิศซินโดรม

มนุษย์ออฟฟิศรู้ไว้ ทำอย่างไรถึงห่างไกล ออฟฟิศ ซินโดรม

หากพูดถึงอาการปวดเมื่อยที่เกิดขึ้นในวัยทำงานเสียเป็นส่วนใหญ่ เชื่อว่าหลายคนจะต้องนึกถึงโรคออฟฟิศซินโดรม หรือกลุ่มโรคที่ก่อให้เกิดอาการปวดตึงบริเวณกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ สำหรับเหตุผลที่ออฟฟิศซินโดรมพบบ่อยในกลุ่มมนุษย์ออฟฟิศ เพราะคนกลุ่มนี้มักนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์นาน ๆ โดยไม่ค่อยเปลี่ยนอิริยาบถ จนทำให้กล้ามเนื้อมัดเดิมถูกใช้งานซ้ำ ๆ เป็นสาเหตุให้ปวดตึงและอักเสบ สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งบริเวณคอ บ่า ไหล่ ข้อมือ นิ้ว และแขน บางรายมีอาการตาพร่าเพราะต้องจ้องคอมพิวเตอร์ต่อเนื่องนาน ๆ แม้บางรายอาการไม่หนัก แต่ถึงอย่างนั้นอาจลุกลามและส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว

ทำอย่างไรถึงห่างไกลจากออฟฟิศซินโดรม

นั่งทำงานท่าที่ถูกต้อง – ห่างไกลจากออฟฟิศซินโดรมได้ง่าย ๆ ด้วยการปรับท่านั่งทำงานให้ถูกต้อง โดยท่านั่งทำงานที่ดีต้องนั่งแล้วสบายที่สุด ไม่เกร็ง หลังควรพิงกับเก้าอี้ แต่หากที่พิงอยู่ลึกเกินไปควรหาหมอนมารองด้านหลัง เวลานั่งพยายามเอนตัวไปด้านหลัง การวางแขนควรขนานกับโต๊ะเพื่อไม่ให้ไหล่ยก และควรเว้นระยะห่างจากคอมพิวเตอร์ประมาณ 50-70 เซนติเมตร

เปลี่ยนอิริยาบถบ่อย ๆ – สาเหตุสำคัญของออฟฟิศซินโดรมคือการใช้กล้ามเนื้อมัดเดิมติดต่อกันนาน ๆ โดยไม่เปลี่ยนท่าทาง วิธีป้องกันอย่างได้ผลคือพยายามเปลี่ยนอิริยาบถบ่อย ๆ ควรเปลี่ยนท่าทางทุก 20-30 นาที แม้ดูเป็นสิ่งที่ทำได้ยากโดยเฉพาะคนที่ต้องรับบทหนักในการทำงาน แต่ถึงอย่างนั้นควรหมั่นเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

ยืดเส้นระหว่างวัน – นอกจากควรเปลี่ยนอิริยาบถบ่อย ๆ แล้ว ระหว่างวันควรหาโอกาสยืดเส้นยืดสาย หากไม่มีเวลาจริง ๆ แนะนำให้บิดขี้เกียจไปมา 3-4 รอบ เพื่อลดโอกาสเมื่อยตึง แต่หากเป็นไปได้ควรหาเวลาเดินไปสูดอากาศข้างนอกบ้าง หรือหาคลิปยืดเส้นยืดสายเพื่อลดอาการออฟฟิศซินโดรมเพียงเท่านี้ก็ห่างไกลจากโรคนี้ได้มากขึ้น

ออกกำลังกายสม่ำเสมอ – อีกหนึ่งตัวช่วยลดความเสี่ยงเกิดออฟฟิศซินโดรม นั่นคือ การออกกำลังกาย เพราะการออกกำลังกายจะช่วยคลายเส้นและยืดกล้ามเนื้อส่วนที่ตึง โดยควรออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง กิจกรรมที่แนะนำเป็นพิเศษคือการเล่นโยคะ เพราะช่วยยืดเส้นและคลายกล้ามเนื้อส่วนที่ตึงได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและเป็นกิจกรรมคลายเครียดได้อย่างดีเยี่ยม

แม้ออฟฟิศซินโดรมอาจไม่ใช่กลุ่มโรคร้ายแรง แต่ถึงอย่างนั้นการป้องกันก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะบางรายอาการหนักจนส่งผลต่อสุขภาพและการดำเนินชีวิต หากมีอาการของโรคนี้ แนะนำให้ปรับพฤติกรรมการนั่งทำงานโดยเร็วเพื่อลดโอกาสลุกลาม นอกจากนี้บางคนเลือกเข้ารับการรักษาด้วยการฝังเข็ม การนวดแผนไทย การกายภาพบำบัดร่วมด้วย