5 ทริคการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขของคนไม่แคร์โลก

ไม่แคร์โลกซะอย่าง

คนไม่แคร์โลก คือ คนไม่สนใจคอมเม้นต์หรือคำตำหนิติเตียน ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามในสิ่งที่ตัวเองปรารถนา ตราบใดที่ไม่เดือดร้อนคนอื่น ซึ่งตรงข้ามกับคนที่ไม่เอาใครจะเป็นคนไม่มีปฏิสัมพันธ์และแยกตัวออกจากคนอื่น ด้วยเหตุนี้ เราจึงมีทริคการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข ฉบับคนไม่แคร์โลก ดังต่อไปนี้

ทริคที่ 1 ไม่เน้นของหรูหราราคาแพงแต่เน้นสิ่งที่จำเป็นต้องใช้

คนไม่แคร์โลกจะมีมุมมองว่า การซื้อสิ่งของก็ต่อเมื่อมีความจำเป็นต้องใช้งาน เช่น ซื้อรถยนต์ยี่ห้อที่ใช้งานได้หรือต้องขับรถไปทำงานเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องเป็น ซุปเปอร์คาร์ หากกรณีเป็นสมาร์ทโฟน สมมติว่าใช้ประมาณ 4 ปี ไม่มีปัญหาเลย แต่ปีนี้ได้มีรุ่นใหม่ออกมา ในราคา 20,000 – 30,000 บาท คนไม่แคร์โลกไม่ปล่อยให้กระแสโลกดึงไปเพราะเขาทราบว่าเป็นกระแสบริโภคนิยม บริษัทต่าง ๆ ต้องการขายสินค้าให้ได้ จึงมีโฆษณาสร้างกระแสและภาพลักษณ์เพื่อดึงผู้คนให้มาซื้อสินค้าตัวเอง ทำให้คนที่ไม่แคร์โลกใช้โทรศัพท์ธรรมดาเพื่อสำหรับโทรและดูข้อมูลก็เพียงพอแล้ว ซึ่งมีราคาถูกกว่า 5 ถึง 10 เท่า ส่วนคนแคร์โลก ยอมผ่อนเดือนละ 2,000 ถึง 3,000 บาท พอผ่อนหมดประมาณ 3 เดือน รุ่นใหม่ออกอีกแล้ว ก็เปลี่ยนไปซื้อรุ่นใหม่อีกเพราะกลัวสายตาคนอื่นจะมองว่าใช้รุ่นเก่า จึงผ่อนไปเรื่อยทั้งที่ไม่มีความจำเป็น หากกรณีเป็นกระเป๋า คนไม่แคร์โลกจะใช้กระเป๋าธรรมดาที่สามารถใส่ของมากมาย ส่วนคนแคร์โลกก็จะต้องเป็นกระเป๋าที่มีแบรนด์ ราคาหลายหมื่นถึงแสนบาท

ทริคที่ 2 ทำในสิ่งที่มีความสุข

การทำอะไรของคนไม่แคร์โลก เป็นสิ่งที่เขาอยากจะทำจริงหรือมีความสุขที่ได้ทำ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อตัวเองและคนอื่น โดยไม่แคร์ว่า เมื่อได้ทำไปแล้วจะได้รับประโยชน์อะไรกลับมาบ้าง เช่น คำชื่นชมยินดี ค่าตอบแทน เป็นต้น นอกจากนี้ คนไม่แคร์โลกไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดกับตัวเองอย่างไรหรืออาจจะแคร์บ้างแต่ไม่เก็บมาใส่ใจมากเกินไป เพราะเขาทราบว่า ทุกคนมีความคิดเห็นเป็นของตัวเอง บางคนตั้งใจทำงานหนักหาเงินได้เยอะ แต่มีนิสัยชอบหาทีเด็ดบอลเต็งแล้วแทงบอลเล่นขำๆ พอคนอื่นรู้ก็ดุด่าสอนว่าเดี๋ยวหมดตัวทั้งๆที่คนเล่นพนันสามารถจัดการบริหารเงินตัวเองให้เหลือเก็บมากกว่าคนรอบข้างได้หลายเท่าเพราะแยกแยะได้ว่างานหลักคืออะไรกับงานอดิเรกขำๆคืออะไร เมื่อลงมือทำอะไรไปแล้ว ก็จะมีบางคนเห็นต่างหรือตำหนิว่า ทำไมไม่ทำให้ดีกว่านี้ ถ้าเขามัวฟังความคิดเห็นคนอื่นมากเกินไปหรือทุกข์ใจกับคอมเม้นต์ ก็จะทำให้เขาไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย

ทริคที่ 3 ไม่แคร์คนที่มีนิสัยแตกต่าง

คนไม่แคร์โลก จะไม่สนใจคนรอบตัวที่มีนิสัยแตกต่าง โดยเฉพาะคนนอกที่มีนิสัยถึงขั้นเข้ากันไม่ได้จริง ๆ ก็จะตัดความสัมพันธ์กับคนนั้นไปเลยเพื่อความสบายใจทั้ง 2 ฝ่าย แต่กรณีเป็นพี่น้องที่มีนิสัยที่ไม่เหมือนกัน คนไม่แคร์โลกจะไม่แคร์แต่ไม่ถึงขั้นตัดความสัมพันธ์เพราะต้องอยู่ร่วมกันนั่นเอง หากเปรียบเทียบกับหลายคนที่ไม่ใช่คนไม่แคร์โลก เมื่อเห็นคนที่มีนิสัยที่แตกต่าง ก็จะเกิดความรู้สึกหงุดหงิด ว่าทำไมเขาทำแบบนี้ ทำให้เกิดความทุกข์โดยไม่รู้ตัว

ทริคที่ 4 ไม่หาข้อบกพร่องของใคร

คนไม่แคร์โลกจะไม่จับผิดคนอื่นและจะไม่มาบ่นว่าใครเป็นอย่างไร หรือใครไม่ได้ดั่งใจและต้องให้มารับผิดชอบอะไร เพราะเขาทราบว่าคนที่ขี้บ่นจะเป็นคนที่ไม่มีความสุข ทำให้คนที่ไม่แคร์โลกจะมองวิธีการแก้ปัญหามากกว่าที่จะมองหาข้อบกพร่องของคนอื่น

ทริคที่ 5 ไม่สนใจสิ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้

หากทุกเช้าต้องเจอเรื่องรถติดบนท้องถนนซึ่งเป็นสถานการณ์ปัจจุบันในกรุงเทพมหานคร ส่งผลให้เกิดความกดดันให้กับหลายคน แต่ถ้าคนไม่แคร์โลกจะไม่สนใจรถติด ไม่ว่าจะติดเป็นชั่วโมงก็ตาม เพราะเขาทราบว่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เมื่อมีมุมมองเช่นนี้ ก็จะเป็นคนไม่แคร์โลกที่มีจิตใจสบายหรือมีความสุข

โลกในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงหรือเจริญทางด้านเทคโนโลยีมากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้ผู้คนมีความสุขน้อยลง โดยเฉพาะคนที่ต้องทำตามกระแสสังคม แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีกลุ่มหนึ่งที่กลับมีความสุข คือ คนที่ไม่แคร์โลกที่เราได้กล่าวไว้ข้างต้น ดังนั้น จะดีไม่น้อยเลยหากคุณได้นำมุมมองฉบับคนไม่แคร์โลกมาใช้ในชีวิตประจำวันดูบ้าง